จริงๆ แล้ว แผ่นหลังคาเหล็กเมทัลชีท เป็นวัสดุที่เราได้ยินมานานนับสิบปีและยังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่แปลกใจไหมครับว่า ทำไมราคาถึงแตกต่างกันเหลือเกิน จากประสบการณ์กว่า 30 ปี ในวงการนี้ในฐานะผู้ผลิตและติดตั้งหลังคาเหล็กคุณภาพ มีลูกค้าสอบถามมามากมาย และตอบคำถามบ่อยมาก จนคิดว่า สมควรจะบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง จะได้ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะของดีราคาถูกนั้นหายากเหลือเกิน มีแต่ของดี ราคาคุ้มค่า สมเหตุสมผล หรือที่เรียกว่า สมราคา น่ะแหละครับ
สิ่งที่เราจะต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ
เอาล่ะเกริ่นมาพอควร เพื่อให้ลูกค้าได้ของดีมีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม สิ่งที่เราจะต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ นั่นก็คือ
1. รูปลอน อันนี้แล้วแต่ความชอบครับ เพราะมีมากมายหลายแบบ หลายสไตล์ และหลากสีสันหลากลวดลายให้เลือก
2. ความหนาแผ่น อย่างที่เคยกล่าวไว้ในบทความแรกๆ แผ่นเหล็ก(เปลือย) ที่ใช้ส่วนใหญ่กับงานหลังคา จะมีความหนา 0.3 -0.7 มม. แต่โดยมาตรฐานงานโครงการ จะระบุสเปคที่ความหนาเหล็กเปลือย 0.42 มม. (BMT) ถ้านำไปเคลือบสารป้องกันสนิม ความหนาเหล็กรวมเคลือบอลูซิงค์/ซิงคาลูม AZ150 จะเป็น 0.47 มม.(TCT) และถ้านำไปอบเคลือบสี ความหนารวมเคลือบสีจะเป็น 0.50 มม.(TCT) ดังนั้นระบุความหนารวมเคลือบให้ถูกต้องนะครับ ต่างกันเพียงนิด ความแข็งแรงต่างกัน แต่ในตลาดระดับกลางถึงล่าง มักจะใช้เหล็กที่มีความหนาและชั้นเคลือบที่บาง เพราะเน้นราคาถูก (Link SEO 1,2)
คุณสมบัติของแผ่นหลังคาเหล็ก สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความ หลังคาเหล็กตัวเลือกที่น่าสนใจ และ หลังคาเหล็กโรงงาน ลอนอะไร?
3. วัตถุดิบ
3.1 ค่ากำลังของวัสดุเหล็กรีดเย็น ในงานโครงการส่วนใหญ่ มักจะระบุสเปคค่ากำลังวัสดุ G550 (550 MPa, High strength of steel) อาจพบค่า G300 บ้าง แต่ไม่มากนัก
3.2 ชั้นเคลือบป้องกันสนิม ซึ่งมีผลต่อการรับประกันวัสดุเหล็ก แสดงถึงอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นลูกค้าควรสอบถามใบรับประกันจากผู้ผลิตแผ่นเมทัลชีท
งานโครงการ จะระบุชั้นเคลือบอลูซิงค์/ซิงคาลูม ด้วยปริมาณการเคลือบ 150 กรัมต่อตร.ม. (AZ150) ซึ่งรับประกันวัสดุสูงสุดที่ 20 ปี ในกรณี ที่เป็นเหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์/สีคัลเลอร์เน็กซ์เจน นั่นคือ การอบเคลือบสีคุณภาพสูง ลงบนเหล็กเคลือบอลูซิงค์/ซิงคาลูม ทำให้รับประกันวัสดุสูงสุดที่ 30 ปี
- ถ้าอาคารในกลุ่มระดับกลางถึงล่าง จะใช้ชั้นเคลือบที่บางกว่านี้ ก็คือ 70 - 100 กรัมต่อตร.ม. เป็นต้น การรับประกันก็จะลดลงมาเหลือ 5 - 10 ปีตามลำดับ
- ถ้าเป็นแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีที่ใช้ในแคมป์คนงานก่อสร้าง จะมีปริมาณชั้นเคลือบที่บางลงอีก คือ ต่ำกว่า 70 กรัมต่อตร.ม. แน่นอนว่า ราคาจึงถูกมาก
3.3 มาตรฐานสินค้า - มาตรฐาน มอก. เดี๋ยวนี้มีเหล็กหลากหลายมาก ทั้งเหล็กนำเข้า และเหล็กในประเทศ ดังนั้นอย่าลืมดูว่าเหล็กรีดเย็น ได้มอก.หรือไม่ ถ้าเป็นเหล็กเคลือบซิงคาลูม ก็จะอ้างอิงมาตรฐานมอก. 2228 สำหรับ และเหล็กเคลือบสี จะอ้างอิง มอก 2753 แต่ถ้าในงานโครงการ จะอ้างอิงมาตรฐานต่างประเทศด้วย อย่างเช่น มาตรฐานออสเตรเลีย AS, มาตรฐานญี่ปุ่น JIS, มาตรฐานยุโรป หรือ มาตรฐานอเมริกา เป็นต้น
4. คุณสมบัติของรูปลอนหลังคา บ่งบอกถึงความสามารถและความแข็งแรงของแผ่นหลังคา ในด้านต่างๆ ก็คือ
- ไม่แตกหัก (รับน้ำหนักคนเดินได้ดี) ซึ่งระยะพาดแปที่เหมาะสม จะขึ้นอยู่กับรูปลอน และความหนาของเหล็ก ซึ่งค่าระยะแปนี้จะมาจากการคำนวณ และทดสอบ โดยทั่วไปนิยมใช้ ที่ระยะ 1.50 เมตร แต่งานโครงการบางงาน พาดไปถึง 2 - 3 เมตรก็มี
- ป้องกันลม (แผ่นไม่ปลิว) ซึ่งค่าการรับแรงลม จะต้องมาจากการทดสอบทางวิศวกรรม และต้องมีใบรับรองผลด้วยนะครับ
- ป้องกันฝน (แผ่นระบายน้ำได้ดี และน้ำไม่รั่วซึมลงสู่อาคาร)
- ด้านอื่นๆ เช่น การดัดโค้งได้ดี สามารถทำมุมลาดเอียงหลังคาได้ต่ำ และรีดแผ่นยาวต่อเนื่องโดยไม่ต่อแผ่น (ขึ้นอยู่กับระบบการยึดแผ่น) ทำให้ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย
5. การตรวจสอบสินค้า เป็นการตรวจสอบสินค้าก่อนออกจากโรงงานผลิต โดยลูกค้าสังเกตได้จาก ใบ QC Pass หรือ ใบตรวจสอบสินค้า นั่นเอง เพื่อตรวจสอบความสม่ำเสมอของรูปลอนและอุปกรณ์ ในทุกๆ มิติ ทั้งความลึก หน้ากว้าง ความหนา รอยโค้งหยัก เป็นต้น รวมถึงความเรียบร้อยในการแพ็คกิ้งสินค้า และการบริการขนส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ สำหรับลูกค้า เพื่อตรวจสอบสินค้า หากเกิดปัญหาในภายหลัง
6. คุณภาพงานติดตั้ง สินค้าดีมีคุณภาพ แต่ถ้าติดตั้งไม่ดี จะส่งผลให้ประสิทธิภาพแของระบบแผ่นหลังคาลดลง ดังนั้นจึงควรมองหาช่างติดตั้งที่ได้มาตรฐานและคำนึงถึงความปลอดภัย เพื่อจะได้งานที่เรียบร้อย แข็งแรง สวยงาม คงทน
บทสรุป
หลักๆ ให้พิจารณาก่อนเลือกซื้อ 6 ข้อ เพื่อว่าลูกค้าจะได้ของดี มีคุณภาพสูง ในราคาเหมาะสม เพื่ออาคารของเราจะได้อายุใช้งานทนนานนานนับหลายสิบปี เป็นแผ่นหลังคาที่แข็งแรงกันแดด กันฝน กันลม มีความปลอดภัยทางวิศวกรรม และมีความสวยงาม
“ตาดีได้ ตาร้ายเสีย” คำกล่าวนี้มิผิดเพี้ยน แต่ตาเราคงจะแยกแยะความต่างเหล่านี้ไม่ได้ ดังนั้นอย่าลืม สอบถามจากผู้ผลิตก่อนเลือกซื้อนะครับ ในส่วนของราคา จะมาลงรายละเอียดในฉบับต่อๆ ไปนะครับ เพราะในแต่ละระบบหลังคา ยังมีความแตกต่างกัน อย่างเช่น หน้ากว้างความสูงลอน จำนวนแผ่นต่อพื้นที่ และอุปกรณ์ติดตั้งไม่เหมือนกัน